ในปัจจุบัน บริษัทหลายแห่งทั่วโลกได้มีการแข่งขันกันเพื่อแย่งชิงตัวพนักงานที่มีความสามารถและรักษาพนักงานเก่ง ๆ ไว้โดยใช้อาวุธและกลยุทธ์ที่หลากหลายด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือการใช้สวัสดิการสุดปังที่ไม่เหมือนใครเป็นตัวดึงดูดกลุ่มคนดังกล่าว ในวันนี้ พวกเราขอพาทุกคนไปส่องสวัสดิการที่หลายคนไม่เชื่อว่าเป็นไปได้จริงของบริษัททั้งในและต่างประเทศ มีอะไรบ้างไปดูกัน!
5 สวัสดิการสุดปังที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีจริงในที่ทำงาน
1) อกหักก็พักก่อน
การลาหยุดแบบไหนก็คงไม่น่าประหลาดใจเท่าการลาหยุดเพราะอกหัก เบื้องหลังแนวคิดของสิทธิ์นี้คือ เมื่อคนเราอกหัก เรามักจะอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมในการทำอะไรก็ตาม ไม่ใช่แค่เรื่องงานเท่านั้น บางครั้งแม้แต่เพื่อนยังไม่อยากออกไปเจอเลย คล้าย ๆ กับตอนที่ป่วยอยู่นั่นเอง สิทธิ์การลานี้จึงเป็นตัวช่วยให้พนักงานคนนั้นได้ฟื้นฟูแผลใจก่อนที่จะกลับมาทำงานใหม่ได้อย่างสดชื่น
บริษัทฮิเมะแอนด์คอมพะนี ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้ออกนโยบายสิทธิ์การลานี้ให้กับพนักงานทุกคนโดยพนักงานที่อายุน้อยกว่า 25 ปีจะได้สิทธิ์ลานี้เพียงปีละ 1 วัน ในขณะที่พนักงานที่อายุ 30 ปีขึ้นไปสามารถลาด้วยสิทธิ์นี้ได้ 3 วันต่อปี ด้วยเหตุผลว่ายิ่งอายุมาก ยิ่งหาความรักได้ยากกว่า ความเจ็บปวดจากการอกหักจึงมีมากกว่าเช่นกัน
ส่วนในประเทศไทย Mango Zero บริษัทผลิตคอนเทนต์ออนไลน์ชื่อดังย่านบรรทัดทอง ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่มอบสิทธิ์การลานี้ให้กับพนักงาน ด้วยปรัชญาขององค์กรที่ให้ความสำคัญกับความรักไม่แพ้คุณภาพของงาน พนักงานในทุกระดับที่มีอายุการทำงานตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปสามารถลาช้ำรักได้มากถึง 3 วันต่อปี
2) อยากเป็นเพศไหน ลาไปเปลี่ยนเลย
บริษัทหลาย ๆ แห่งทั้งในประเทศไทยและในโลกกำลังทยอยเพิ่มแรงสนับสนุนในความหลากหลายตามกระแสของยุคแห่งความเท่าเทียม สวัสดิการเกี่ยวกับการแปลงเพศจึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ LGBTQ+ หลาย ๆ คนที่อยากมีร่างกายเป็นไปตามเพศวิถีของตัวเอง
บริษัทหลักทรัพย์เจ้าใหญ่ของสหรัฐอเมริกาอย่าง Goldman Sachs ได้มีการทุ่มทุนให้กับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยพนักงานประจำสาขากรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ สามารถเข้ารับการปรึกษาเกี่ยวกับความไม่พึงพอใจต่อเพศสภาพของตนได้ฟรี รวมถึงบริษัทมีการออกค่าผ่าตัดแปลงเพศให้พนักงานเต็มจำนวนด้วยเช่นกัน
บริษัทผู้ผลิตแพลตฟอร์มสำหรับธุรกิจอาหารแบบครบวงจรอย่าง LINE MAN Wongnai ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทในประเทศไทยที่ร่วมสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ แม้จะไม่ได้มีการทุ่มงบให้กับพนักงานเพื่อไปผ่าตัดแปลงเพศ แต่ก็มีการสนับสนุนวันหยุดเพื่อพักฟื้นจากการผ่าตัดมากถึง 30 วัน
3) จ้างเที่ยว
อ๊ะ ๆ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด สิทธิประโยชน์นี้ไม่ใช่การจ้างคนไปเที่ยวด้วยกันนะ แต่เป็นการที่บริษัทมอบสิทธิพิเศษที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวให้กับพนักงานเพื่อใช้ผ่อนคลายจากการทำงาน ประมาณว่าเป็นการจ้างให้พนักงานไปเที่ยวนั่นเอง มีตั้งแต่การมอบส่วนลดในการเข้าพักโรงแรมหรือซื้อตั๋วเครื่องบินไปจนถึงเงินก้อนหนึ่งเลยเพื่อให้พนักงานใช้เที่ยวได้อย่างเต็มที่
Airbnb บริษัทจัดหาที่พักและประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบไม่เหมือนใครสัญชาติอเมริกัน มีงบประมาณให้พนักงานสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวฟรีถึงประมาณ 60,000 บาทต่อปี พร้อมด้วยสิทธิ์การเข้าพักห้องพักในเครือ Airbnb ได้ฟรี เพื่อเป็นการเปิดประสบการณ์ของพนักงานในฐานะลูกค้านั่นเอง
สำหรับในประเทศไทย พนักงานของบริษัทที่อยู่ในกลุ่มดุสิตธานี กลุ่มธุรกิจด้านการบริการที่มีต้นกำเนิดจากโรงแรมห้าดาวอย่างโรงแรมดุสิตธานี ล้วนสามารถเข้าพักโรงแรมในเครือทั้งในและต่างประเทศได้ในราคา staff rate หากตีเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนลดค่าห้องพักที่พนักงานได้รับอยู่ที่ประมาณ 30-80% แถมยังสามารถรับประทานอาหารในโรงแรมได้โดยจ่ายเพียงครึ่งราคาเท่านั้น
4) เครียดเกินไปก็มีพื้นที่รีแลกซ์ให้ใช้ในที่ทำงาน
ทุกการทำงานย่อมมีความเครียดมาเจือปนเสมอ หลาย ๆ บริษัทที่เล็งเห็นถึงความเสี่ยงที่พนักงานจะ burnout ได้ก็จะพยายามหาอะไรมาชดเชยให้กับความทุ่มเทของพวกเขา หนึ่งในนั้นก็คือพื้นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจในที่ทำงานนั่นเอง ซึ่งแต่ละบริษัทก็จะออกแบบพื้นที่สำหรับความผ่อนคลายที่แตกต่างกันออกไป
บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Google มีการจัดพื้นที่พักผ่อนให้พนักงานอย่างหลากหลายด้วยกัน ตั้งแต่ห้องออกกำลังกาย ห้องเล่นเกม ห้องสปา ไปจนถึงห้องนอน ซึ่งทั้งหมดนี้ พนักงานสามารถใช้บริการได้ฟรี สำหรับใครที่ชอบแก้เครียดด้วยการกิน ห้องอาหารกลางวันของที่นี่ถือว่าเป็นสวรรค์เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากอาหารจะเป็นบุฟเฟ่ต์ที่สามารถตักมากินได้ไม่อั้นแล้ว ขนมนมเนยในตู้เย็นก็หยิบมากินได้ไม่จำกัดเหมือนกัน
ในฝั่งของประเทศไทย บริษัทโทรคมนาคม feel good อย่าง Dtac ก็มีการออกแบบสถานที่ทำงานให้รู้สึกสนุกและผ่อนคลาย โดยจุดเด่นของที่นี่คือมีสไลเดอร์สำหรับผู้ใหญ่ตั้งอยู่กลางออฟฟิศเลย นอกจากนั้น ที่นี่ยังมีห้องคาราโอเกะ สนามฟุตซอลในร่ม โต๊ะพูล ลู่วิ่ง ห้องสมุด และอื่น ๆ อีกมากมายไว้ให้พนักงานได้ฟินกัน
5) พาโบ้มาที่ทำงานได้
สำหรับใครที่เป็นทาสน้องหมาน้องแมวและเป็นห่วงที่จะต้องทิ้งพวกเขาให้อยู่บ้านอย่างเดียวดาย บริษัทหลาย ๆ แห่งทั่วโลกก็เข้าใจถึงความรู้สึกนี้ จึงเริ่มมีสวัสดิการให้พาสัตว์เลี้ยงมาที่ทำงานได้ พร้อมเปิดพื้นที่ให้น้องหมาน้องแมวมาอยู่กับเจ้าทาสได้อย่างสันติ
บริษัทผู้ผลิตไอศกรีมสุดอินดี้อย่าง Ben & Jerry’s ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากจะเปิดพื้นที่ให้น้องหมาของพนักงานเข้ามานั่งทำงานด้วยกันได้แล้ว ยังมีการเปิดเว็บบอร์ดที่รวบรวมประวัติ ความชอบ และความน่ารักของน้องหมาแต่ละตัวไว้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นบริษัทที่รักน้องหมาอย่างสุดใจ
YDM บริษัทสื่อโฆษณาดิจิทัลในกรุงเทพฯ ก็มีการเปิดพื้นที่ให้น้องหมาน้องแมวมาวิ่งเล่นในออฟฟิศได้เช่นกัน เพื่อลดความเครียดให้กับพนักงานและลดอัตราการลาออกในที่สุด
อ่านบทความจบแล้วอย่าเพิ่งอิจฉาไป สวัสดิการดี ๆ แบบนี้ก็เป็นของคุณได้ ค้นหาบริษัทที่มอบสิ่งดี ๆ ให้กับคุณได้ที่เว็บไซต์ www.jobtopgun.com แหล่งรวบรวมงานที่เหมาะกับคุณมากกว่า 5,000 ตำแหน่ง รวมถึงสามารถอ่านรีวิวบรรยากาศการทำงาน สวัสดิการ และอื่น ๆ อีกเพียบที่เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจสมัครงานของคุณได้ทางเว็บไซต์ www.yousayhrsay.com